วันพุธที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2558

อัศจรรย์ วัดน้ำฮู อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน


ขอเข้าประวัติคร่าวๆสักนิดนะครับ เมื่อก่อน ปายเป็นเมืองที่มีพื้นที่รกร้างมากมายและเมื่อคนอพยพเข้ามาก็ได้ถางเพื่อทำการเกษตรและได้พบกับวัดร้าง ซึ่งภายในวัดร้างนั้นมีพระพุทธรูปอุ่นเมืองประดิษฐาน พอชาวบ้านเห็นก็เลยไม่กล้าถางต่อเพราะกลัว

จนประมาณปี 2474 ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา ได้จาริก มาที่อำเภอปาย โดยตั้งมั่นว่าจะมาบูรณะวัดที่รกร้าง สร้างโบสถ์ วิหาร เจดีย์ เมื่อชาวบ้านได้ทราบข่าวว่าครูบาศรีวิชัยจาริกมา ที่อำเภอปาย จึงได้ไปกล่าวนมัสการให้ท่านทราบ ว่ามีพระที่อยู่ใต้ต้นไม้ ไม่มีเสนาสถานะ กันแดดกันฝน จากนั้นครูบาศรีวิชัยจึงได้บูรณะวัดน้ำฮู และอาราธนาพระพุทธรูปอุ่นเมืองเข้าประดิษฐานในวิหาร ก่อนที่ท่านจะจาริกกลับได้มอบหมายให้พระลูกศิษย์ อยู่ดูแลที่วัดแทน



พระพุทธรูปอุ่นเมือง หล่อด้วยสำริต หน้าตักกว้าง 80 เซนติเมตร สูง 111 เซนติเมตร มีลักษณะพิเศษคือ เกศเมาลี จากยอดแหลมยาวลงมา 1 คืบ คล้ายเป็นฝาครอบ ไม่ติดกับพระเศียร เหตุที่ทำให้ทราบว่าไม่ติดกันเนื่องจาก ตอนที่พระ เณร ได้ทำความสะอาดนั้น พระเกศได้เกิดเคลื่อน ด้วยเกศที่ทำจากสำริต ทำให้เกิดเสียงดัง เมื่อพระ เณร เห็นว่า เกศสามารถขยับได้ จึงทำการเปิดพระเกศนั้นดู พบว่าเป็นหลุมลึก 3 นิ้ว กว้าง 3 นิ้ว ภายในตอนเปิดนั้นมีน้ำขังอยู่เต็ม ด้วยความที่พระเณรไม่เคยเห็นจึงนำเรื่องไปเล่าสู่กันฟังจนเรื่องถึงชาวบ้าน แต่ต่างก็บอกว่าเป็นน้ำที่ขังเมื่อตอนสงกรานต์ พอสรุปได้ดังนั้นก็เลยเชื่อตามกันมาแล้วไม่มีใครสนใจต่อ

จนปี 2515 มีพระธุดงค์มาจากต่างจังหวัดเพราะทราบข่าว อยากรู้ อยากเห็น จึงขอกราบนมัสการและขอขึ้นดูแล้วพบว่าน้ำเต็มจริง สอบถามได้ความว่าเป็นน้ำที่ขังมาจากสงกรานต์แต่พระธุดงค์ไม่เชื่อจึงขอทดลอง โดยการเปิดเกศเมาลีออกแล้วเอาช้อนตักน้ำออกจนหมด จากนั้นนอนเฝ้า 3 วัน 3 คืน เพื่อสังเกต เมื่อครบ 3 วันพระธุดงค์ได้เปิดพระเศียร ปรากฏว่า พบน้ำซึมออกมาอีก จึงบอกว่าน้ำในพระเศียรไม่ใช้น้ำที่มาจากวันสงกรานต์เพราะได้ตักน้ำนั้นออกหมดแล้วก่อนที่จะทดลอง

อีกทั้งยังนอนเฝ้า ไม่มีใครมาสรงน้ำพระแน่นอน แต่ชาวบ้านบางส่วนยังไม่เชื่อเนื่องจากพระพิสูจน์เพียงรูปเดียวจึงเป็นที่เล่าลือทั่วเมืองปาย

และปี 2516 นายอำเภอปาย อยากทราบข้อเท็จจริง จึงนำเจ้าหน้าที่ราชการและทีมงานมาพิสูจน์ โดยการตักน้ำออกจากพระเกศจนหมดใช้สำลีเช็ดจนแห้ง เอาพระเกศครอบลงแล้วปิดครั่งประทับตราเพื่อไม่ให้ใครเอาน้ำมาใส่ จากนั้นปิดประตู หน้าต่าง ล็อกกุญแจ นำลูกกุญแจไปไว้ที่อำเภอ เมื่อครบ 5 วัน ได้ทำการเปิดพระเกศอีกครั้ง ปรากฏว่ามีน้ำซึมออกมาจากภายในพระเศียร พระพุทธรูปอุ่นเมืองจริง การที่มีน้ำซึมออกมาจากภายในพระเศียรพระพุทธรูปอุ่นเมืองนี้ทำให้ผู้คนทั่วไปรับรู้ถึงความศักดิ์สิทธิ์และข่าวได้แพร่ออกไปทำให้ประชาชนมานมัสการจนปัจจุบัน











 ปัจจุบันนี้ในพระเศียรยังคงมีน้ำซึมออกมาเหมือนเดิม แต่ได้มีการตักน้ำส่วนหนึ่งออกมาผสมน้ำมนต์วางไว้หน้าโบสถ์เพื่อให้คนได้นำกลับบ้านและอีกส่วนหนึ่งนำไว้ในโบสถ์เพื่อให้พระสงฆ์เอาไว้ประพรหมน้ำมนต์ในสมัยก่อนคนที่มานมัสการสามารถขึ้นไปดูได้แต่โดยเฉพาะผู้ชายเท่านั้น ต่อมาทางวัดจึงถ่ายวีดีโอไว้ให้ชม เนื่องจากจะได้ชมทางวีดีโอเหมือนกันหมดทั้งชายและหญิงจะได้เท่าเทียมกัน
และก่อนหน้านี้ผมเองก็ได้มีโอกาสขึ้นไปชมความอัศจรรย์นี้ด้วยตาของตัวเอง 

ใครที่ได้มีโอกาสไปปายก็อย่าลืมแวะไปกราบไหว้สักการะพระพุทธรูปอุ่นเมืองที่วัดน้ำฮูด้วยนะครับ


#meesookde







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น