วันจันทร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2559

เขาคิชฌกูฏ 2559

เขาคิชฌกูฏ สวรรค์ของนักแสวงบุญ ก่อนขึ้นต้องรู้



ถ้าจะพูดถึงการเดินทางแสวงบุญ หลายคนอาจนึกถึงต่างประเทศ อย่างประเทศอินเดีย แต่ถ้าเป็นในประเทศไทย ผมว่าหนึ่งที่ ที่นักแสวงบุญจะต้องนึกถึงคือ เขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี ที่เปิดเพียงปีละครั้งเท่านั้น ในช่วงปลายเดือนมกราคมถึงปลายเดือนมีนาคม ในแต่ละปี อย่างปี 2559 นี้ มีการเลื่อนกำหนดมาเปิดช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์

การเดินทางแสวงบุญที่นี่เหมาะกับการขึ้นช่วงกลางคืนเพราะอากาศไม่ร้อน และสามารถทำบุญได้ทั้งวันทั้งคืน หรือ 24 ชั่วโมง สามารถขึ้นรถได้ 2 ที่คือ ที่วัดกะทิงและวัดพลวง

การขึ้นรถที่วัดพลวงจะต้องขึ้นรถ 2 ต่อ ค่าบริการต่อละ 50 บาท ขึ้นลงรวม 200 บาท บริเวณวัดพลวงมีของขายเยอะมากทั้งพลอยโรยพระพุทธบาท ดอกไม้ ธูป เทียน ถึงแม้กระทั่งของกิน แต่ด้านบนก็สามารถซื้อได้เนื่องจากมีขายตลอดการเดินทาง

การขึ้นรถที่วัดกะทิง จะขึ้นรถเพียงต่อเดียว ค่าบริการ 100 บาท ขึ้นลง รวม 200 บาท การเดินทางขึ้นเขาต้องใช้รถจากการจัดด้วยเจ้าหน้าที่เท่านั้น เพราะทางลาดชันและค่อนข้างอันตราย ต้องใช้ผู้ที่เชียวชาญที่ได้รับอนุญาต 

รถทุกคันจะไปจอดที่ ลานพระศิวลี และจากจุดนี้ต้องเดินเท้าขึ้นไปยังรอยพระพุทธบาท แต่ทางช่วงนี้ยังถือว่าเดินขึ้นเขาได้ไม่ลำบาก เพราะมีการทำทางเดินบันไดเป็นช่วงๆ และระหว่างทางก็มีจุดไหว้พระอีกหลายจุด ถ้าแวะทำบุญไปเรื่อยๆก็ใช้เวลาประมาณ 1ชั่วโมง จะถึงรอยพระพุทบาท ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญที่ทุกคนมากราบไหว้สักการะ แต่จุดมุ่งหมายของนักแสวงบุญส่วนหนึ่งจะต้องเดินทางต่อ ซึ่งทางจะเดินยากกว่าช่วงแรก ซึ่งที่หมายคือ ผ้าแดง 

จุดสุดท้ายคือ สุดเขตแดนบุญผ้าแดง จะมีการเขียนคำอธิษฐานบนผ้าและผูกขอพร ซึ่งถ้าใครมาถึงจุดนี้ถือว่าสุดยอด ถึงสวรรค์ของนักแสวงบุญ

ขอแนะนำว่า การเดินทางควรขึ้นตอนเย็นหรือกลางคืน เพราะสภาพอากาศจะไม่ร้อนมาก ช่วงเวลาที่คนน้อยคือ วันธรรมดา ช่วง 3 ทุ่มถึง 5 ทุ่ม 

ขึ้นรถที่วัดกะทิง ขึ้นต่อเดียวไม่ต้องเปลี่ยนรถ คนไม่เยอะ ถ้าขึ้นรถที่วัดพลวงอาจจะต้องต่อคิวนานและขึ้นรถ 2 ต่อ

รองเท้าที่ใส่ควรเป็นผ้าใบหรือรัดส้น สำหรับคนที่ขี้ร้อนให้ติดน้ำไว้ด้วยถึงแม้จะมีขายตามจุดก็ตาม












































ติดตามการเดินทางได้ที่ www.facebook.com/meesookde

                                       www.facebook.com/alonetravel